ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

การตลาดแบบ MLM คืออะไร

MLM คืออะไรหรือ? ที่จริงแล้ว MLM ย่อมาจากคำว่า Multi Level Marketing การ ตลาดแบบหลายชั้น เรามาเรียกว่าธุรกิจเครือข่ายดีกว่านะ ปัจจุบันนี้เจ้าของธุรกิจหลายๆรายได้นำธุรกิจของตัวเองเข้าสู่ระบบเครือข่าย มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันมีข้อดีคือ ลดภาระค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ พ่อค้าคนกลาง ค่าขนส่งฯลฯ เมื่อภาระต่างๆเหล่านี้น้อยลง เจ้าของธุรกิจก็จะได้มีเวลามาพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการมากขึ้น มีบริษัทที่จดทะเบียนเข้าระบบเครือข่ายนับเป็นหมื่นๆบริษัทในอเมริกา อีกสองหมื่นกว่าบริษัทในญี่ปุ่นและไต้หวัน ส่วนในไทยก็ประมาณ 400-500 บริษัท เช่น A-Smart ของตระกูลอัศวโภคิน, โสมเกาหลีตังกุยจับ, FreshMart, Uniliver, Loxley, บริษัทยาและอาหารเสริมต่างๆ รวมทั้งข่าวที่ว่าเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังของไทยก็จะโดดเข้าร่วมวงด้วยเช่นกัน

คุณเห็นความจริงและแนวโน้มของธุรกิจเครือข่าย รวมทั้งโอกาส

ของเราที่มีต่อแนวโน้มนี้ไหม



ธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่การรับจ้างทำงานหรือเป็นลูกจ้างของบริษัท

แต่มันคือธุรกิจของคุณเอง การบริหารงานอยู่ในมือคุณ

แล้วคราวนี้คุณจะจัดการกับธุรกิจของคุณอย่างไร



บุคคลที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ MLM


บุคคลที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ MLM นั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มี

ความจริงใจกับลูกค้า และสอนทีมงานให้เป็น โดยควรจะมีมุมมองดังนี้

1. การแนะนำลูกค้า เราจะต้องคิดเหมือนลูกค้า ต้องทำให้ลูกค้าเข้าใจถึงความคุ้มค่าในการซื้อสินค้า กล่าวคือ สินค้าของ

ธุรกิจใน MLM มักราคาแพงในเชิงของราคา แต่ในเชิง
ความคุ้มค่าแล้ว มักจะคุ้มค่ากว่าสินค้าทั่วไป หากผู้ขายไม่เคยทดลองใช้

ไม่เคยเก็บข้อมูลการใช้ด้วยตนเองแล้ว จะไม่มีวันทราบเลยว่า สินค้านั้นคุ้มค่ากับลูกค้าของเรา

2. สินค้าใดหากเราไม่เคยใช้ เราไม่มั่นใจ เราจะไม่นำเสนอ แต่หากลูกค้าสนใจเอง และตัดสินใจซื้อจาก catalog นั่นเป็น

สิทธิของลูกค้า

3. เราต้องเน้นสินค้าที่เรามีความชำนาญ และถ่ายทอดความรู้ของเราไปให้ทีมงานฟัง สอนให้ทีมงานสะสมความรู้ในสินค้า

พิสูจน์ความคุ้มค่าของสินค้าให้กับทีมงาน เพื่อที่ทีมงานของเราจะได้แนะนำสินค้าให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ



4. คัดสรรทีมงานที่จะเข้ามาในเครือข่ายของตนอย่างพิถีพิถัน เพราะหากเราไปหลอกเขามา เราจะเหนื่อยและเสียเวลาในการสอน สู้คัดบุคคลที่มีความเชื่อมั่นในธุรกิจ เชื่อมั่นว่าธุรกิจ นี้เป็นอนาคตของเขา จะดีกว่ามากเพราะเขาจะมุ่งมั่น ตั้งใจ และดูแลลูกค้าเขาเป็นอย่างดี ซึ่งผลที่ตามมาคือ องค์กรของเราก็จะเติบโตอย่างมั่นคง (โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ล้มเหลวในธุรกิจ MLM มักใจร้อน ใช้วิธีสุ่มคนให้เข้ามาเป็นจำนวนมากๆเข้าไว้ และสอนให้ใช้สินค้ามากๆ ซึ่ง Upline ก็หวังประโยชน์จากการใช้สินค้าของ Downline สุดท้าย Downline ขายไม่เป็น Downline ก็ตาย แล้วไม่นาน Upline ก็ตายตามไปด้วย)

5. ต้องสอนให้ทีมงานตกปลาเป็น หมายถึงต้องสอนให้ทีมงานดูแล เอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดี แนะนำสินค้าที่ดีให้กับลูกค้า เมื่อชื่อเสียงเราดี ลูกค้าของเราก็จะขยายชื่อเสียงของเรา ให้เอง เราก็จะค่อยๆมีลูกค้ามากขึ้น นั่นก็หมายถึง รายได้เรามากขึ้นด้วย (แต่หากใครคิดว่าจะมีรายได้มากโดยใช้เวลาสั้นๆนั้น เข้าใจผิด!!! ส่วนใหญ่เป็นภาพลวงตา เพราะผู้ขายมักจะ ขายคนรอบข้างแบบไม่ค่อยเข้าใจสินค้า จึงทำให้เหมือนหลอกขาย ทั้งญาติ เพื่อนฝูง คนรู้จัก สุดท้ายก็จะเสียญาติ เพื่อนฝูงและคนรู้จักไปทั้งหมด นี่แหละสาเหตุของความล้มเหลวในธุรกิจ MLM ทั้งเสียชื่อ และชื่อเสียไปเลย)

6. เข้าฟังการอบรมอย่างต่อเนื่อง เพราะการฟังผู้ที่ประสบความสำเร็จ จะช่วยกระตุ้นให้เรามีความฮึกเหิมมากขึ้น แต่การฟังต้องฟังอย่างมีสติ วิธีการแต่ละอย่างนั้นดี แต่ต้องนำมาปรับ ใช้กับจริตของตัวเราเอง วิธีที่ดีอาจเหมาะสำหรับคนบางคน แต่ไม่ใช่ทุกคน ต้องไม่โลภ อยากเลื่อนระดับเร็วๆ เพื่อหวังรายได้ที่มากขึ้น ถ้าขาดสติก็จะนำไปสู่ความคิดที่จะ หลอกขายสินค้า ตุนสินค้า ฯลฯ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ จะนำเราไปสู่ความเสื่อมขององค์กรเอง

7. ต้องใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบร้อนโต แต่ให้ทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะความใจร้อน มักสะท้อนความโลภ จนลืมหลักการของผู้แทนจำหน่ายที่ดี ซึ่งต้องจริงใจกับลูกค้า และนำเสนอสิ่งที่คุ้มค่ากับลูกค้าเท่านั้น

8. ไม่ท้อแท้ง่าย ต้องอดทน ทุกธุรกิจย่อมมีคนชอบและไม่ชอบทั้งนั้น หากมีคนไม่เข้าใจเรา ก็พยายามอธิบายให้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง ได้เท่าไหนเอาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเครียดนะ จ้ะ เพราะความเครียดจะเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายอีกนานับประการ เมื่อเราอดทนและสามารถอยู่รอดได้ในธุรกิจนี้ เราก็จะมีลูกค้าเพิ่มจากหนึ่งเป็นสอง สาม สี่ ..... นั่นหมายถึงเราก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นตามตัว

9. ควรเริ่มทำตั้งแต่อายุยังน้อยๆ เพราะว่าบุคคลหลายคนที่ต้องรีบร้อนโตเพราะตัวเองมีภาระมาก ต้องใช้เงินมาก จึงคิดหาวิธีที่จะหลอกระบบ แต่หารู้ไม่ว่า นั่นคือวิธีที่ผิด เพราะลืม พื้นฐานของตัวเอง เพราะลืมไปว่ารายได้ของเรานั้นมาจากการสอนทีมงานให้ดูแลลูกค้าของพวกเขาเป็น และมาจากการดูแลลูกค้าของเราเอง หากไม่ทำสองสิ่งนี้ มามัวแต่จะหลอกระบบ สุดท้ายระบบก็ฆ่าเราเอง หากเราเริ่มตั้งแต่สมัยเรียน ภาระไม่มี ก็จะไม่รีบร้อน ค่อยๆทำธุรกิจของเราไป ค่อยๆโต เรียนจบมาก็สมัครทำงานตามปกติ ทำ MLM เป็น Part time จนรายได้มากพอ ค่อยออกมาทำเต็มตัว ไม่ต้องคอยมาทนนายบ่น นายว่าเช้าเย็น

10. ต้องทำด้วยความเสียสละและมีคุณธรรม การทำอย่างเสียสละคือการช่วยให้ทีมงานประสบความสำเร็จก่อน เราจึงจะประสบความสำเร็จ ต้องให้ทีมงานมากกว่าที่เขาสมควรได้รับ การ ช่วยเหลือต่างสายงานบางครั้งก็จำเป็นต้องทำ ด้วยความใจกว้าง ทำอย่างมีสติ จริงใจ ส่วนเรื่องคุณธรรมนั้นสำคัญอย่างยิ่ง อย่าลืมว่าเรากำลังอยู่ร่วมกับ คน เราจึงต้องไม่ริษยา ไม่นินทา ว่าร้ายผู้อื่น ไม่แย่งทีมงานคนอื่น ไม่โกง ไม่โกหก ไม่ก่อปัญหาชู้สาว ไม่เหยียบหัวทีมงานเพื่อขึ้นตำแหน่ง ไม่ลืมตัว บางคนเพียงแค่ประสบความสำเร็จในระดับปานกลางเท่านั้น ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน หยิ่งทะนง ดูถูกคนอื่น คุยข่ม อวดตัว วางก้าม ฯลฯ



ขอเพียงเราทำอย่างจริงจัง ทำอย่างอดทน ทำอย่างสม่ำเสมอ ทำอย่างมีคุณธรรม ศึกษาเรียนรู้สินค้าเพิ่มเติมตลอด เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งเราก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน อย่า ลืมว่าธุรกิจ MLM นั้นเป็นธุรกิจที่ลงทุนน้อย ความเสี่ยงก็ต่ำ ถ้าเราประพฤติตัวได้อย่างที่แนะนำทั้ง 10 ข้อ เราก็จะประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง

จงอย่าปิดโอกาสตัวเอง อย่าดูถูกตัวเอง และอย่าให้ใครดูถูกเรา(ถูกหลอก) เลือกองค์กรที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ ผ่านการพิสูจน์มาแล้วสักระยะหนึ่ง องค์กรนั้นกำลังโต ไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้นหรือกำลังสู่ขาลง เมื่อเลือกได้แล้วก็ ลุย...เต็มที่เลยครับ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ



หากท่านมีปัญหา ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น


khamla Phonthachack


โทร. 856 020 55670662

ยาหมอเส็งแพงไปหรือไม่

ยาหมอเส็งแพงไปหรือไม่





หาก เราจำเป็นต้องไปหาแพทย์แผนปัจจุบันบ่อยๆ เสียค่ารักษามากบ้างน้อยบ้างตามอาการ นอกจากเสียเงินทอง เสียเวลาเดินทาง เสียโอกาสทำมาหากินและฯลฯแล้ว เรายังเสียสุขภาพจิตด้วย ที่สำคัญการรักษา ก็เป็นการรักษาที่ปลายเหตุ บางโรคก็รักษาหายขาด บางโรคแพทย์ก็ยอมรับว่ารักษาให้หายขาดไม่ได้ ต้องกินยาควบคุมอาการตลอดไป หากหยุดยาโรคก็กำเริบ แล้วเมื่อทานยาปฏิชีวนะนานๆเข้า สารเคมีในยาก็สะสมภายในร่างกาย เกิดโรคข้างเคียงโดยไม่สามารถรู้ก่อนหรือหลีกเลี่ยงได้ การรักษาแบบแผนโบราณจึงกลับมานิยมและถูกจัดให้เป็นการรักษาทางเลือก เพราะนอกจากช่วยรักษาโรคแล้ว ยังปลอดภัย ไม่มีสารตกค้างภายในร่างกายด้วย

สมุนไพรหมอเส็งนั้นประกอบ ไปด้วยสมุนไพรหลายสิบชนิดมาผสมกันในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อบำรุง ดูแล ซ่อมสร้างส่วนที่สึกหรอจากการถูกทำลายไปภายในร่างกาย ให้กลับสู่สมดุลของตัวเอง เมื่อร่างกายทำงานได้ตามปกติ โรคภัยไข้เจ็บก็จะเบาบางลงจนกระทั่งหายไป รวมทั้งยังเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงขึ้นด้วย เมื่อร่างกายแข็งแรงเราก็มีเวลามาเสริมสร้างสติปัญญา สร้างโอกาสในการทำเงินทำทอง สะสมบุญญาบารมีเพื่อเป็นเสบียงไว้เลี้ยงตัวถึงชาติหน้าด้วย ดังนั้นการบำรุงร่างกายให้แข็งแรงกับเงินที่เสียไปนั้นถือว่าคุ้มมากครับ ไม่แพงหรอกครับ

การตลาดแบบ MLM คืออะไร

การตลาดแบบ MLM คืออะไร

MLM คืออะไรหรือ? ที่จริงแล้ว MLM ย่อมาจากคำว่า Multi Level Marketing การ ตลาดแบบหลายชั้น เรามาเรียกว่าธุรกิจเครือข่ายดีกว่านะ ปัจจุบันนี้เจ้าของธุรกิจหลายๆรายได้นำธุรกิจของตัวเองเข้าสู่ระบบเครือข่าย มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันมีข้อดีคือ ลดภาระค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ พ่อค้าคนกลาง ค่าขนส่งฯลฯ เมื่อภาระต่างๆเหล่านี้น้อยลง เจ้าของธุรกิจก็จะได้มีเวลามาพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการมากขึ้น มีบริษัทที่จดทะเบียนเข้าระบบเครือข่ายนับเป็นหมื่นๆบริษัทในอเมริกา อีกสองหมื่นกว่าบริษัทในญี่ปุ่นและไต้หวัน ส่วนในไทยก็ประมาณ 400-500 บริษัท เช่น A-Smart ของตระกูลอัศวโภคิน, โสมเกาหลีตังกุยจับ, FreshMart, Uniliver, Loxley, บริษัทยาและอาหารเสริมต่างๆ รวมทั้งข่าวที่ว่าเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังของไทยก็จะโดดเข้าร่วมวงด้วยเช่นกัน

คุณเห็นความจริงและแนวโน้มของธุรกิจเครือข่าย รวมทั้งโอกาส

ของเราที่มีต่อแนวโน้มนี้ไหม



ธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่การรับจ้างทำงานหรือเป็นลูกจ้างของบริษัท

แต่มันคือธุรกิจของคุณเอง การบริหารงานอยู่ในมือคุณ

แล้วคราวนี้คุณจะจัดการกับธุรกิจของคุณอย่างไร



บุคคลที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ MLM


บุคคลที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ MLM นั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มี

ความจริงใจกับลูกค้า และสอนทีมงานให้เป็น โดยควรจะมีมุมมองดังนี้

1. การแนะนำลูกค้า เราจะต้องคิดเหมือนลูกค้า ต้องทำให้ลูกค้าเข้าใจถึงความคุ้มค่าในการซื้อสินค้า กล่าวคือ สินค้าของ

ธุรกิจใน MLM มักราคาแพงในเชิงของราคา แต่ในเชิง
ความคุ้มค่าแล้ว มักจะคุ้มค่ากว่าสินค้าทั่วไป หากผู้ขายไม่เคยทดลองใช้

ไม่เคยเก็บข้อมูลการใช้ด้วยตนเองแล้ว จะไม่มีวันทราบเลยว่า สินค้านั้นคุ้มค่ากับลูกค้าของเรา

2. สินค้าใดหากเราไม่เคยใช้ เราไม่มั่นใจ เราจะไม่นำเสนอ แต่หากลูกค้าสนใจเอง และตัดสินใจซื้อจาก catalog นั่นเป็น

สิทธิของลูกค้า

3. เราต้องเน้นสินค้าที่เรามีความชำนาญ และถ่ายทอดความรู้ของเราไปให้ทีมงานฟัง สอนให้ทีมงานสะสมความรู้ในสินค้า

พิสูจน์ความคุ้มค่าของสินค้าให้กับทีมงาน เพื่อที่ทีมงานของเราจะได้แนะนำสินค้าให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ



4. คัดสรรทีมงานที่จะเข้ามาในเครือข่ายของตนอย่างพิถีพิถัน เพราะหากเราไปหลอกเขามา เราจะเหนื่อยและเสียเวลาในการสอน สู้คัดบุคคลที่มีความเชื่อมั่นในธุรกิจ เชื่อมั่นว่าธุรกิจ นี้เป็นอนาคตของเขา จะดีกว่ามากเพราะเขาจะมุ่งมั่น ตั้งใจ และดูแลลูกค้าเขาเป็นอย่างดี ซึ่งผลที่ตามมาคือ องค์กรของเราก็จะเติบโตอย่างมั่นคง (โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ล้มเหลวในธุรกิจ MLM มักใจร้อน ใช้วิธีสุ่มคนให้เข้ามาเป็นจำนวนมากๆเข้าไว้ และสอนให้ใช้สินค้ามากๆ ซึ่ง Upline ก็หวังประโยชน์จากการใช้สินค้าของ Downline สุดท้าย Downline ขายไม่เป็น Downline ก็ตาย แล้วไม่นาน Upline ก็ตายตามไปด้วย)

5. ต้องสอนให้ทีมงานตกปลาเป็น หมายถึงต้องสอนให้ทีมงานดูแล เอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดี แนะนำสินค้าที่ดีให้กับลูกค้า เมื่อชื่อเสียงเราดี ลูกค้าของเราก็จะขยายชื่อเสียงของเรา ให้เอง เราก็จะค่อยๆมีลูกค้ามากขึ้น นั่นก็หมายถึง รายได้เรามากขึ้นด้วย (แต่หากใครคิดว่าจะมีรายได้มากโดยใช้เวลาสั้นๆนั้น เข้าใจผิด!!! ส่วนใหญ่เป็นภาพลวงตา เพราะผู้ขายมักจะ ขายคนรอบข้างแบบไม่ค่อยเข้าใจสินค้า จึงทำให้เหมือนหลอกขาย ทั้งญาติ เพื่อนฝูง คนรู้จัก สุดท้ายก็จะเสียญาติ เพื่อนฝูงและคนรู้จักไปทั้งหมด นี่แหละสาเหตุของความล้มเหลวในธุรกิจ MLM ทั้งเสียชื่อ และชื่อเสียไปเลย)

6. เข้าฟังการอบรมอย่างต่อเนื่อง เพราะการฟังผู้ที่ประสบความสำเร็จ จะช่วยกระตุ้นให้เรามีความฮึกเหิมมากขึ้น แต่การฟังต้องฟังอย่างมีสติ วิธีการแต่ละอย่างนั้นดี แต่ต้องนำมาปรับ ใช้กับจริตของตัวเราเอง วิธีที่ดีอาจเหมาะสำหรับคนบางคน แต่ไม่ใช่ทุกคน ต้องไม่โลภ อยากเลื่อนระดับเร็วๆ เพื่อหวังรายได้ที่มากขึ้น ถ้าขาดสติก็จะนำไปสู่ความคิดที่จะ หลอกขายสินค้า ตุนสินค้า ฯลฯ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ จะนำเราไปสู่ความเสื่อมขององค์กรเอง

7. ต้องใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบร้อนโต แต่ให้ทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะความใจร้อน มักสะท้อนความโลภ จนลืมหลักการของผู้แทนจำหน่ายที่ดี ซึ่งต้องจริงใจกับลูกค้า และนำเสนอสิ่งที่คุ้มค่ากับลูกค้าเท่านั้น

8. ไม่ท้อแท้ง่าย ต้องอดทน ทุกธุรกิจย่อมมีคนชอบและไม่ชอบทั้งนั้น หากมีคนไม่เข้าใจเรา ก็พยายามอธิบายให้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง ได้เท่าไหนเอาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเครียดนะ จ้ะ เพราะความเครียดจะเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายอีกนานับประการ เมื่อเราอดทนและสามารถอยู่รอดได้ในธุรกิจนี้ เราก็จะมีลูกค้าเพิ่มจากหนึ่งเป็นสอง สาม สี่ ..... นั่นหมายถึงเราก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นตามตัว

9. ควรเริ่มทำตั้งแต่อายุยังน้อยๆ เพราะว่าบุคคลหลายคนที่ต้องรีบร้อนโตเพราะตัวเองมีภาระมาก ต้องใช้เงินมาก จึงคิดหาวิธีที่จะหลอกระบบ แต่หารู้ไม่ว่า นั่นคือวิธีที่ผิด เพราะลืม พื้นฐานของตัวเอง เพราะลืมไปว่ารายได้ของเรานั้นมาจากการสอนทีมงานให้ดูแลลูกค้าของพวกเขาเป็น และมาจากการดูแลลูกค้าของเราเอง หากไม่ทำสองสิ่งนี้ มามัวแต่จะหลอกระบบ สุดท้ายระบบก็ฆ่าเราเอง หากเราเริ่มตั้งแต่สมัยเรียน ภาระไม่มี ก็จะไม่รีบร้อน ค่อยๆทำธุรกิจของเราไป ค่อยๆโต เรียนจบมาก็สมัครทำงานตามปกติ ทำ MLM เป็น Part time จนรายได้มากพอ ค่อยออกมาทำเต็มตัว ไม่ต้องคอยมาทนนายบ่น นายว่าเช้าเย็น

10. ต้องทำด้วยความเสียสละและมีคุณธรรม การทำอย่างเสียสละคือการช่วยให้ทีมงานประสบความสำเร็จก่อน เราจึงจะประสบความสำเร็จ ต้องให้ทีมงานมากกว่าที่เขาสมควรได้รับ การ ช่วยเหลือต่างสายงานบางครั้งก็จำเป็นต้องทำ ด้วยความใจกว้าง ทำอย่างมีสติ จริงใจ ส่วนเรื่องคุณธรรมนั้นสำคัญอย่างยิ่ง อย่าลืมว่าเรากำลังอยู่ร่วมกับ คน เราจึงต้องไม่ริษยา ไม่นินทา ว่าร้ายผู้อื่น ไม่แย่งทีมงานคนอื่น ไม่โกง ไม่โกหก ไม่ก่อปัญหาชู้สาว ไม่เหยียบหัวทีมงานเพื่อขึ้นตำแหน่ง ไม่ลืมตัว บางคนเพียงแค่ประสบความสำเร็จในระดับปานกลางเท่านั้น ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน หยิ่งทะนง ดูถูกคนอื่น คุยข่ม อวดตัว วางก้าม ฯลฯ



ขอเพียงเราทำอย่างจริงจัง ทำอย่างอดทน ทำอย่างสม่ำเสมอ ทำอย่างมีคุณธรรม ศึกษาเรียนรู้สินค้าเพิ่มเติมตลอด เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งเราก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน อย่า ลืมว่าธุรกิจ MLM นั้นเป็นธุรกิจที่ลงทุนน้อย ความเสี่ยงก็ต่ำ ถ้าเราประพฤติตัวได้อย่างที่แนะนำทั้ง 10 ข้อ เราก็จะประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง

จงอย่าปิดโอกาสตัวเอง อย่าดูถูกตัวเอง และอย่าให้ใครดูถูกเรา(ถูกหลอก) เลือกองค์กรที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ ผ่านการพิสูจน์มาแล้วสักระยะหนึ่ง องค์กรนั้นกำลังโต ไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้นหรือกำลังสู่ขาลง เมื่อเลือกได้แล้วก็ ลุย...เต็มที่เลยครับ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ



หากท่านมีปัญหา ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
Thongchanh Phonthachack


โทร. 856 020 55670662, Thai Mobile Phone: 0833342705