ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

หยุดการเสพย์ทีวี! เพื่อความสำเร็จของตัวคุณ


หยุดการเสพย์ทีวี!

นี่ อาจจะเป็นหัวข้อบทความที่แรงที่สุด เท่าที่ผมเคยเขียนมา และผมไม่ได้ใช้คำเกินเลยไปแม้แต่น้อย เพราะผมอยากให้คุณ ได้เข้าใจถึงความแตกต่างของการดูทีวี และการเสพย์ทีวี ว่ามีความแตกต่างกันมากเพียงใด แล้วเหตุใดผมจึงหวังให้คุณเลิกการเสพย์ทีวี และถ้าคุณสามารถทำได้ จะเกิดความแตกต่างกับความสำเร็จทั้งในชีวิต รวมถึงธุรกิจของคุณมากเพียงใด คุณพร้อมจะเข้าใจไปกับผมหรือยัง ?

ก่อนอื่นผมต้องขออธิบายถึงความแตกต่างของ การดูทีวี และการเสพย์ทีวีก่อน ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร การดูทีวี คือการทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลาย โดยที่เราเพียงแค่ดูเป็นเวลาสั้น ๆ หรือดูเพราะแก้เบื่อก็แล้วแต่

แต่สำหรับการเสพย์ทีวีนั้นกลับแตกต่างกัน ออกไป เพราะเราสวมการเป็นเข้าไปในบทละคร หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในข่าว ซึ่งบางท่านอาจจะสงสัย ว่าจะสามารถแยกแยะได้อย่างไรว่าเรากำลังดูทีวี หรือเสพย์ทีวีอยู่

วิธีการแยกแยะก็คือ ให้คุณลองสำรวจดูความรู้สึกที่มีกับการดูทีวีว่าคุณอินกับเนื้อเรื่องมาก เพียงใด เมื่อตัวละครในทีวีเสียใจคุณรู้สึกเช่นไร เมื่อตัวละครในทีวีเจ็บปวด คุณรู้สึกเช่นไร ถ้าคำตอบคือคุณรู้สึกเช่นเดียวกับที่ตัวละครรู้สึก แสดงว่าตอนนี้คุณกำลังเสพย์ทีวีอยู่ และจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเข้าใจในสิ่งที่ผมจะสื่อสารต่อไปนี้

ผมจำเป็นต้องบอกความจริงว่า ทีวีที่คุณดูอยู่ในทุก ๆ วันนี้นั้น ไม่ได้ถูกทำขึ้นด้วยจุดประสงค์ของความสนุกสนานบันเทิงของผู้รับชม แต่ถูกทำขึ้นด้วยจุดประสงค์ของการสร้างความกล้ว ซึ่งบางครั้งคุณแทบจะไม่สามารถสังเกตได้ แต่อันที่จริงแล้วทีวี ได้สร้างความกลัวให้เกิดขึ้น โดยที่บางครั้งความกลัวเหล่านั้น ก็ก่อเกิดความเชื่อโดยที่คุณก็คาดไม่ถึง

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไป ก็คือความระแวงในชีวิตคู่ว่าสามีจะนอกใจ เพราะดูละครและเห็นว่าสามีนอกใจภรรยา จึงเกิดสงสัยสามีของตนขึ้นมา ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ว ทีวียังส่งผลกระทบเชิงลบให้กับคุณได้มากยิ่งกว่านั้น ถ้าคุณไม่สามารถแยกแยะได้

ผมเองก็เป็นหนึ่งคนที่ยังดูทีวีอยู่ แต่ผมไม่เคยเอาตัวเองไปผูกกับความรู้สึกของตัวละคร หรือเหตุการณ์ในเชิงลบเลย นอกเสียจากถ้าความรู้สึกนั้นคือความสนุกสนานมีความสุขเท่านั้น และผมจะไม่ยอมดูในสิ่งที่ชวนให้หดหู่อย่างถึงที่สุด ที่ทำให้รู้สึกว่าผมไม่สามารถฝืนชะตาได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดมาแล้ว

เพราะสิ่งเหล่านี้กำลังพยายามทำให้เรายอม รับในสิ่งที่ทำ และหยุดการก้าวเดินต่อไปสู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของเรา เพราะเราจะรู้สึกว่าเราคงไม่สามารถทำได้ เพราะเราไม่ได้เกิดมาเพียบพร้อม ไม่ได้เกิดมาพร้อมกับโอกาสในการประสบความสำเร็จ

คุณไม่จำเป็นต้องเลิกดูทีวี แต่คุณจำเป็นต้องเลิกเสพย์ความกลัวจากทีวีที่พยายามส่งถึงคุณ เพราะความกลัวเหล่านี้ จะหยุดยั้งคุณจากการประสบความสำเร็จ โดยการแยกแยะอย่างมีเหตุผล คุณจะเข้าใจได้ว่าทีวี ไม่ใช่เรื่องจริง และไม่มีทางที่จะเป็นจริงไปได้ ไม่ว่าจะในชีวิตของคุณ หรือชีวิตของใครก็ตาม

ถ้าคุณสามารถฝึกการแยกแยะได้ คุณจะสามารถฝึกฝนการคิดบวกได้อย่างมีพลัง ซึ่งถ้าคุณอยากเข้าใจถึงผลกระทบของสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อความคิดของคุณ คุณสามารถย้อนอ่านบทความเรื่องสิ่งแวดล้อมบวกได้

นี่อาจเป็นบางสิ่งที่คุณรู้สึกว่าคุณต้อง จ่ายออกไป แต่ถ้าคุณฝึกฝนการแยกแยะอย่างที่ผมแนะนำจนสมบูรณ์แบบ คุณจะพบว่าคุณสามารถรับความสุข สนุกสนานจากการดูทีวี ได้มากกว่าเดิมอย่างเทียบไม่ติด และนั่นน่าจะเป็นสิ่งที่คุณควรจะได้รับจากการดูทีวี คือความสุข ความหวัง ไม่ใช่ความกลัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น