
Law of Connection
ปัญหา หลัก ๆ ของผู้คน ที่ไม่สามารถชักจูงคนเข้ามาร่วมในธุรกิจเครือข่ายได้ ส่วนใหญ่มาจากการสื่อสารที่ผิดพลาด และไม่สามารถสร้างการเชื่อมโยง ให้เกิดขึ้นระหว่างผู้มุ่งหวังและตนเองได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ได้รับผลลัพธ์ จากการแนะนำธุรกิจเท่าที่คาดหวังไว้ ดังนั้นการสื่อสารที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่จะทำให้การแนะนำธุรกิจ ได้รับผลลัพธ์ตามที่ต้องการ และถ้าคุณเข้าใจกฎของการสื่อสารนี้ คุณจะได้รับทุก ๆ อย่างที่คุณต้องการ คุณพร้อมที่จะรู้กฎนี้หรือยัง ?
การที่คนเราจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งบางครั้งคุณอาจจะแปลกใจ ที่คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์กับคนบางคนได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับคนบางคนได้เลย แม้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดก็ตาม
สาเหตุหลัก ๆ นั้นมาจากสไตล์การสื่อสารของบุคคลที่แตกต่างกันออกไป ถ้าคุณเชื่อมความสัมพันธ์ กับใครได้รวดเร็ว ก็มีความเป็นไปได้ว่าคุณมีสไตล์การสื่อสารแบบเดียวกับพวกเขา ในขณะที่คนที่คุณไม่สามารถเชื่อมโยงได้ ก็เพราะคุณทั้ง 2 คนล้วนมีสไตล์การสื่อสารที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง
สไตล์ของการสื่อสารนั้นแบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ 1. การมองเห็น (Visual) 2. การฟัง (Auditory) 3. การสัมผัส (Kinesthetic) 4. การคิดแบบตรรกะ (Digital) ซึ่งแต่ละสไตล์ก็ล้วนแล้วแต่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งคุณอาจจะเป็นได้หลายแบบ หรืออาจจะเป็นเพียงแค่แบบเดียว แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ ถ้าคุณต้องการที่จะสามารถเชื่อมโยงกับผู้คนได้ทุก ๆ คน คุณควรจะเข้าใจรูปแบบการสื่อสารในทุก ๆ สไตล์
1. การมองเห็น (Visual)
ผู้คนที่อยู่ในสไตล์นี้จะจดจำสิ่งต่าง ๆ เป็นภาพ และใช้การสร้างภาพไว้ในจิตใจ ซึ่งส่งผลให้พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และชื่นชอบการมองภาพรวม มากกว่าสนใจในรายละเอียด ซึ่งกลุ่มการสื่อสารสไตล์นี้ จะชอบพูดคำดังต่อไปนี้ ฉันเห็นภาพแล้ว คิดภาพออกไหม เป็นต้น
ในกลุ่มนี้ข้อดีคือ พวกเขาจะสามารถมองภาพรวมของเรื่องราวออกได้อย่างรวดเร็ว แต่จะไม่ชอบเรื่องราวที่มีรายละเอียดมากจนเกินไป เพราะพวกเขาต้องการเพียงแค่ภาพรวมก็เพียงพอ
2. การฟัง (Auditory)
ผู้คนที่อยู่ในสไตล์นี้จะจดจำสิ่งต่าง ๆ จากที่พวกเขาได้ยินแบบคำต่อคำ และบ่อยครั้งที่เรียนรู้จากการฟังโดยไม่จดบันทึกไว้ พวกเขายังเป็นนักเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ซึ่งกลุ่มการสื่อสารสไตล์นี้ จะชอบพูดคำดังต่อไปนี้ ฉันได้ยินแล้ว ฉันอยากฟังที่คุณพูดอีก เป็นต้น
ซึ่งในกลุ่มนี้ข้อดีคือ พวกเขาเป็นนักระดมความคิดเห็นที่ยอดเยี่ยม และยังเป็นนักพูดที่ดีอีกด้วย แต่ถ้าเมื่อใดก็ตาม ที่พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้รับความสนใจในสิ่งที่พวกเขาพูด หรือไอเดียของพวกเขา พวกเขาจะโกรธและไม่พูดอีกเลย
3. การสัมผัส (Kinesthetic)
ผู้คนที่อยู่ในสไตล์นี้จะใช้วิธีการสัมผัส และรู้สึก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะชอบการเรียนรู้จากการลงมือทำมากที่สุด ซึ่งกลุ่มการสื่อสารสไตล์นี้ จะชอบพูดคำดังต่อไปนี้ ฉันจับจุดได้แล้ว ฉันรู้สึกว่ามันใช่เลย เป็นต้น
ซึ่งในกลุ่มนี้ข้อดีคือ พวกเขาเก่งในเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์ และสามารถทำงานเป็นทีมได้อย่างยอดเยี่ยม แต่จะมีปัญหากับสิ่งที่ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพราะพวกเขาไม่มีเวลาที่จะรู้สึกถึงสิ่งนั้นก่อนที่จะตัดสินปัญหาได้
4. การคิดแบบตรรกะ (Digital)
ผู้คนที่อยู่ในสไตล์นี้จะมีการคิดที่เป็นขั้นเป็นตอน มีการลงรายละเอียดอย่างมาก และต้องการเวลาในการประมวลผลเมื่อได้รับข้อมูลใหม่ ๆ ซึ่งกลุ่มการสื่อสารไตล์นี้ จะชอบคำพูดดังต่อไปนี้ ไม่มีข้อสงสัยเลย ฉันรู้ว่าหมายถึงอะไร เป็นต้น
ซึ่งในกลุ่มนี้ข้อดีคือ พวกเขาเก่งในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และเป็นนักวางกลยุทธ์ชั้นเยี่ยม มีความชำนาญอย่างยิ่งในการจัดการสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยง การประชุม แต่พวกเขาไม่ชอบการสั่งให้ทำบางสิ่งบางอย่าง และไม่ชอบการถูกขัดจังหวะ
ซึ่งการสื่อสารทั้ง 4 สไตล์นั้น ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่า คุณจัดอยู่ในสไตล์การสื่อสารใด ซึ่งคุณสามารถเข้าไปทำแบบสอบถามออนไลน์ได้ที่นี่
ซึ่งเมื่อคุณทราบว่าคุณจัดอยู่ในสไตล์ใด แล้ว คุณก็จะสามารถปรับตัวเข้ากับทุก ๆ สไตล์ได้ และนั่นจะทำให้คุณสามารถสื่อสารกับทุก ๆ สไตล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น