ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กลิ่นตัว


กลิ่นตัว


คุณเคยสงสัยไหมว่าทั้งๆ ที่มีการอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอ แต่ทำไมยังมีกลิ่นตัวอยู่อีก??

ที่เป็น เช่นนี้เพราะ คนเรามีแหล่งกำเนิดกลิ่นอยู่บนร่างกายด้วยกันหลายจุด จุดสำคัญที่สุดของกลิ่นตัว คือต่อมเหงื่อชนิดหนึ่งที่พบมากบริเวณรักแร้ และอวัยวะเพศ ต่อมเหงื่อชนิดนี้มีชื่อเรียกว่า อโปไครน์ (apocrine) ซึ่งจะเริ่มทำงานเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ต่อมเหงื่อชนิดนี้มีหน้าที่สร้างสารที่มีกลิ่นคล้ายฟีโรโมน สารชนิดนี้มีสีขาวขุ่น ในระยะแรกที่หลั่งออกมาจะไม่มีกลิ่น แต่หลังจากถูกย่อยโดยเชื้อแบคทีเรียซึ่งอาศัยอยู่บนผิวหนังจึงทำให้เกิด กลิ่นขึ้น ส่วนเหงื่อใส ๆ ที่หลั่งออกมาเวลาอากาศร้อนขณะออกกำลังกาย หรือเป็นไข้นั้นหลั่งออกมาจากต่อมเหงื่ออีกชนิดหนึ่งเรียกว่า เอ็คไครน์ (eccrine) เหงื่อชนิดนี้เป็นน้ำใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่จะเป็นตัวนำพาให้กลิ่นตัวที่เกิดจากต่อมอโปไครน์กระจายออกไป

นอกจาก นี้กลิ่นตัวยังเกิดได้จากเซลล์ผิวหนังที่อับชื้น และถูกย่อยสลายโดยเชื้อแบคทีเรียที่ย่อยสลายของไขมันที่หลั่งออกมาจากต่อม ไขมันตามผิวหนังซึ่งมักพบในคนผิวมัน และยังอาจเกิดจากสารที่รับประทานเข้าไปแล้วขับออกมาทางเหงื่อ เช่น ยาบางชนิด สารหนู และอาหารบางอย่าง โดยเฉพาะจำพวกเครื่องเทศต่าง ๆ เป็นต้น

ความหลากหลายของกลิ่นตัว
ถ้า ลองสังเกตดูจะรู้สึกได้ว่าบนร่างกายของคนเรานั้นมีกลิ่นที่แตกต่างกันไปใน แต่ละจุด รวมถึงคนแต่ละคนก็มีกลิ่นตัวที่แตกต่างกันออกไปด้วย ขึ้นอยู่กับกลไกการเกิดกลิ่น ตำแหน่งที่เกิดกลิ่น ตลอดจนชนิดและปริมาณของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น กลิ่นตัวบริเวณรักแร้ส่วนใหญ่เกิดจากการย่อยสลายของสารที่หลั่งออกมาจากต่อม เหงื่ออโปไครน์ กลิ่นตามซอกพับและที่เท้าเกิดจากการย่อยสลายของเซลล์ผิวหนัง และกลิ่นบริเวณหนังศีรษะ บนใบหน้า ส่วนใหญ่เกิดจากการย่อยสลายของไขมันจากต่อมไขมันที่ผิวหนัง สารที่เกิดขึ้นจากกระบวนการย่อยสลายเหล่านี้เป็นสารเคมีที่แตกต่างกัน จึงทำให้กลิ่นตัวในแต่ละตำแหน่งของร่างกายแตกต่างกันไปด้วย เช่นเดียวกันกับกลิ่นที่เกิดจากสารที่ขับออกมาทางเหงื่อก็จะมีกลิ่นเฉพาะตัว ที่แตกต่างกันออกไป กลิ่นอันหลากหลายบนเรือนกายของแต่ละคนเมื่อรวมกันแล้วก็จะทำให้คนแต่ละคนมี กลิ่นกายเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน คนในภูมิอากาศร้อนชื้น หรือผู้ที่มีสุขอนามัยไม่ดีพอ เชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังจะเจริญได้ดีและมีจำนวนมาก เป็นผลให้กลิ่นตัวรุนแรง

ปัจจัยที่ส่งเสริมและทำให้เกิดกลิ่นตัว
นอก จากกลิ่นตัวจะมีสาเหตุจากธรรมชาติของร่างกายทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียที่อยู่ ตามผิวหนังแล้ว ยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ เช่น สภาพอากาศในฤดูร้อน หรือในสภาวะที่มีอากาศร้อนชื้น เชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังจะเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว แบคทีเรียเหล่านี้จะย่อยสลายเหงื่อที่หลั่งจากต่อมอโปไครน์ ไขมันจากต่อมไขมันและเซลล์ผิวหนังได้เร็วขึ้น จึงทำให้กลิ่นตัวเกิดขึ้นได้ง่ายและรุนแรงขึ้น การสวมใส่เสื้อผ้าที่หนาหรือผ้าบางชนิดเช่นผ้าใยสังเคราะห์จะทำให้เหงื่อ ระบายช้า ผิวหนังจึงมีความอับชื้น ทำให้ปริมาณแบคทีเรียบนผิวหนังเพิ่มขึ้นและเกิดกลิ่นตัวง่ายขึ้น อาหารหรือยาบางชนิด เช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ และสารหนู เป็นต้น ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวเพราะสารเหล่านี้เป็นสารที่มีกลิ่น ซึ่งจะถูกขับออกมาทางเหงื่อ สำหรับคนที่เป็นโรคบางชนิดเช่น โรคเบาหวาน โรคเก๊าท์ โรคทางสมอง และภาวะผิดปกติทางระบบเผาผลาญอาหารบางชนิด ร่างกายจะสร้างสารเคมีบางอย่างที่มีกลิ่น และขับออกมาทางเหงื่อดังนั้นทำให้คนที่เป็นโรคดังกล่าวอาจมีกลิ่นตัวเกิด ขึ้นได้ นอกจากนี้อารมณ์เครียด โกรธ ตกใจ ร่างกายจะกระตุ้นให้ต่อมเอ็คไครน์ใต้รักแร้ หน้าผาก และฝ่ามือออกมามากขึ้นทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวมีความชื้น มากขึ้นแบคทีเรียที่ผิวหนังจึงมีจำนวนมากขึ้นเลยทำให้คนที่มีอารมณ์ดังกล่าว มีกลิ่นตัวไปโดยปริยาย


ขมิ้นชันตราหมอเส็ง มีส่วนช่วยในการกำจัดกลิ่นต่าง ๆ ของร่างกายอย่างได้ผล เพราะคุณหมอเส็งได้นำขมิ้นชันและสมุนไพรต่าง ๆ อีก 30 กว่าชนิดมาปรุงเป็นสูตรของคุณหมอเส็งโดยเฉพาะ สมุนไพรแต่ละชนิดมีส่วนเสริมฤทธิ์ยาซึ่งกันและกัน ป้องกันและกำจัดสารพิษภายในร่างกาย ช่วยลดของเสียจากกลไกต่างๆ ของร่างกายอันเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นต่าง ๆ การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายก็จะขับออกทางปาก จมูก ผิวหนัง ปัสสาวะและอุจจาระ ควรรับประทานขมิ้นชันตราหมอเส็งต่อเนื่องให้กลิ่นหายไปสักระยะหนึ่งก่อน ให้ร่างกายได้ปรับสภาพจนเกิดสมดุลแล้วจึงหยุดทาน กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น