ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ศิลปะการอาบน้ำ




ศิลปะของการอาบน้ำ...ร้อนหรือเย็นแบบไหนดีกว่ากัน
สำหรับ อากาศร้อนๆ อย่างบ้านเรา การอาบน้ำถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เพิ่มความสะอาดสดชื่นและความมั่นใจว่าไร้ กลิ่นเหม็นเหงื่อ และเพื่อให้ถูกสุขอนามัยที่ดี เราควรอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง นอกจากวัตถุประสงค์ของการอาบน้ำเพื่อชำระล้างคราบไคลจากร่างกายแล้ว ปัจจุบันคนนิยมอาบน้ำเพื่อเป็นการผ่อนคลายและบำบัดความเครียด ช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และคลายความร้อน ความเหนื่อยล้า สำหรับการอาบน้ำนั้นจะใช้ฝักบัวหรือแช่อ่างอาบน้ำก็ไม่ต่างกัน แต่อยู่ที่อุณหภูมิของน้ำที่อาบซึ่งล้วนมีผลต่อร่างกาย


สำหรับการอาบน้ำโดยใช้น้ำร้อน อุณหภูมิจะอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียสขึ้นไป อุณหภูมิระดับนี้จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น การอาบน้ำร้อนแบบนี้จึงเหมาะสำหรับการใช้กระตุ้นอาการขี้เกียจ แต่ไม่ควรอาบน้ำที่อุณหภูมินี้นานจนเกินไป เพราะหลอดเลือดขยายตัวจะทำให้ผิวแห้ง มีผื่นขึ้น ทำให้ผิวมีรอยเหี่ยวย่น ยิ่งไปกว่านั้น อาจทำให้เลือดคั่ง ระบบประสาทอ่อนล้า รู้สึกกระวนกระวาย ง่วงเหงา ซึมเซา ดังนั้นการอาบน้ำร้อนที่อุณหภูมินี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ที่มีระดับความดันผิดปกติ


สำหรับการอาบน้ำอุ่น อุณหภูมิจะอยู่ที่ 27-37 องศาเซลเซียส ณอุณหภูมิ ระดับนี้จะช่วยกระตุ้นประสาทอัตโนมัติ ทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจรู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกสบาย คลายความตึงเครียดและสามารถลดไข้ได้


สำหรับการอาบน้ำเย็น อุณหภูมิจะต่ำกว่า 27 องศาเซลเซียส โดย ความเย็นของน้ำที่ใช้อาบจะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อ ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ผิวเต่งตึง นอกจากนี้ น้ำเย็นยังช่วยกระชับรูขุมขน และระหว่างการอาบน้ำ หากใช้มือตบเบาๆ ไปทั่วร่างกาย จะช่วยกระตุ้นผิวและเพิ่มความผ่อนคลายให้แก่กล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี


เทคนิค การอาบน้ำนั้น ให้เริ่มไล่จากปลายเท้าไปถึงกลางลำตัว เพื่อเป็นการปรับอุณหภูมิให้แก่ร่างกาย แล้วจึงเริ่มอาบน้ำ หากอาบน้ำโดยใช้ฝักบัว ควรเปิดน้ำแรงๆ แล้วฉีดไปทั่วตัวเพื่อช่วยในการผ่อนคลาย ส่วนการอาบน้ำโดยการแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ ควรแช่น้ำประมาณ 10 นาที แล้วจึงค่อยลุกขึ้นมาขัดตัว อาบน้ำ สระผม แปรงฟัน จากนั้นค่อยลงไปแช่ในน้ำใหม่อีกครั้ง จะช่วยในการยืดเส้นยืดสายในร่างกาย ทำให้ผ่อนคลายสบายตัว และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สามารถลดอาการมือเย็นเท้าเย็น ลดอาการบวมจากเส้นเลือดขอด สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด สามารถลดไขมันได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำที่ร้อนเกินไป และไม่ควรแช่น้ำนานจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวเปื่อยลอกได้


โดย ปกติทั่วไป เราจะอาบน้ำ 2 ครั้งต่อวัน นั่นก็คือตอนเช้าและเย็นเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกของร่างกาย แต่ในบางกรณีสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย หรือผู้ที่เสียเหงื่อมากจากการทำงาน อาจต้องการอาบน้ำมากกว่า 2 ครั้งต่อวันเพื่อเพิ่มความสะอาดและสดชื่นให้แก่ร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากออกกำลังกายหรือทำงานที่ต้องออกแรง ควรอาบน้ำหลังจากออกกำลังกายไปแล้วไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง และไม่ควรอาบน้ำหลังจากรับประทานอาหารเสร็จทันที เพราะอาจทำให้อาหารไม่ย่อยได้ วิธีการที่เหมาะสมคือควรอาบน้ำก่อน หรือหลังอาหารไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อผลดีต่อสุขภาพร่างกายและสร้างความสุขสดชื่นกับการอาบน้ำมากยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น